สกู๊ปข่าวฉบับพิเศษ
วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2567

“สหกรณ์ออมทรัพย์ในปทุมธานี เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้สินสมาชิกสหกรณ์”

           ในสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่ามีสมาชิกสหกรณ์หลายๆแห่งยังคงเผชิญกับปัญหาภาระหนี้สินจำนวนมากจนเกินความสามารถในการชำระหนี้ได้ นับเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ต้องเร่งแก้ไขให้ความช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ประจำที่เป็นบุคลากรของหน่วยงาน โดยเฉพาะสหกรณ์ออมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบการ ในหน่วยงานราชการและหน่วยงานภาคเอกชน ประสบปัญหาการมีหนี้สินมากเกินความสามารถในการชำระคืนแก่เจ้าหนี้จำนวนมากและมีจำนวนเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อความเป็นอยู่ มีรายได้หลักจากหักชำระหนี้สหกรณ์แล้วไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต มีความขัดสนและเกิดปัญหาทางสังคมตามมาอีกหลายประการ กรมส่งเสริมสหกรณ์จึงได้กำหนดโยบายในการแก้ไขปัญหาหนี้สินและพัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ในทุกภาคส่วน ดังนั้น เพื่อช่วยเหลือผ่อนปรนภาระหนี้และบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้สินให้กับสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ ที่มีหนี้จำนวนมาก และช่วยเหลือให้สมาชิกสหกรณ์มีรายได้รายเดือนคงเหลือเพียงพอต่อการดำรงชีพอย่างน้อยร้อยละ 30 ของเงินได้รายเดือน กรมฯ จึงประกาศแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินสำหรับสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ประสงค์ จะให้ความช่วยเหลือสมาชิก ใน 4 มาตรกร ได้แก่ 1.อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สวัสดิการให้สหกรณ์กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษภายใต้โครงการฯ ในอัตราไม่เกินร้อยละ 4.75 ต่อปี 2.ระยะเวลาการชำระหนี้ ให้สหกรณ์ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ ให้แก่สมาชิกที่เข้าร่วมโครงการไปจนถึง 75 ปี 3.หลักเกณฑ์ในการควบคุมยอดหนี้ ให้สหกรณ์ผู้พิจารณาเงินกู้คำนึงถึงภาระหนี้สินที่สมาชิกต้องชำระให้แก่สินเชื่อสวัสดิการกับสถาบันการเงินอื่นด้วย เพื่อให้สมาชิกสหกรณ์มีเงินได้รายเดือนคงเหลือหลังหักส่งชำระหนี้เพียงพอต่อการดำรงชีพอย่างน้อยร้อยละ 30 ของเงินได้รายเดือน อาจมีการจับมือกับธนาคารกรุงไทยและธนาคารออมสินในการแก้ไขปัญหาหนี้สินแก่สมาชิกในลักษณะการรวมหนี้ไว้ที่เดียว เพื่อให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4.หลักเกณฑ์ผ่อนชำระเงินกู้สหกรณ์สามารถกำหนดหลักเกณฑ์ผ่อนชำระเงินกู้เฉพาะส่วนที่เกินกว่าทุนเรือนหุ้นที่สมาชิกถืออยู่กับสหกรณ์ ​
          สำนักงานสหกรณ์จังหวัดปทุมธานี โดยนางสุชาดา เคนพิทักษ์ สหกรณ์จังหวัดปทุมธานี ได้ขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขหนี้ค้างชำระของสหกรณ์ในจังหวัดปทุมธานีอย่างต่อเนื่อง โดยได้สร้างการรับรู้เกี่ยวกับนโยบายการแก้ไขหนี้ของกรมฯ ทั้งเป็นวิธีการแจ้งหนังสือถึงสหกรณ์ และการสื่อสารผ่านเจ้าหน้าที่ส่งเสริมสหกรณ์ รวมถึงการชี้ให้สหกรณ์ได้เห็นและตระหนักถึงการช่วยเหลือสมาชิกให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม สหกรณ์จังหวัดปทุมธานีกล่าวเพิ่มเติมว่า ในจังหวัดปทุมธานีมีสหกรณ์ออมทรัพย์หลายแห่งที่ได้นำแนวทางการแก้ไขปัญหานี้ค้างของกรมส่งเสริมสหกรณ์ไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทหรือสถานการณ์ของสหกรณ์แต่ละแห่ง ดังจะเห็นได้จาก สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานฝาจีบ จำกัด ซึ่งเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ที่จัดตั้งในสถานประกอบการ ณ ปัจจุบันสหกรณ์มีสมาชิก จำนวน 1,050 คน มีทุนดำเนินงานทั้งสิ้น 546,309,041.93 บาท สหกรณ์ดำเนินธุรกิจ 2 ด้าน มีปริมาณธุรกิจรวมทั้งสิ้น 166,645,672.38 บาท ประกอบด้วย การให้สินเชื่อกับสมาชิก จำนวน 138,809,646 บาท (เงินกู้สามัญ เงินกู้เพื่อเหตุฉุกเฉิน และเงินกู้พิเศษ) และรับเงินฝากสมาชิก จำนวน 27,836,026.38 บาท จากในรอบปีสหกรณ์มีรายได้ทั้งสิ้น 25,007,018.78 บาท มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและดอกเบี้ยจ่ายทั้งสิ้น 5,835,613.22 บาท มีกำไรสุทธิ 20,450,766 บาท สหกรณ์แห่งนี้ได้มีการบริหารงานโดยใช้ทุนภายในของสหกรณ์ ได้แก่ ทุนเรือนหุ้น เงินรับฝากจากสมาชิก เป็นต้น ในการบริหารและดำเนินงานของสหกรณ์ นั่นหมายความว่ากิจการของสหกรณ์นั้น ๆ มีประสิทธิภาพ ไม่ต้องพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากการกู้ยืม แหล่งเงินทุนจากภายนอก ถือได้ว่าสหกรณ์ได้ดำเนินงานด้วยความมุ่งมั่น มีความประสงค์ที่จะให้สมาชิกมีความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สิน โดยในปีที่ผ่านมาสหกรณ์ได้จัดทำโครงการเงินกู้ให้กู้ฉุกฉิน (ส่งเสริมคุณภาพชีวิต) ประจำปี 2566 เนื่องจากปัจจุบันค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้สมาชิกรับภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนเพิ่มขึ้นด้วย เพื่อช่วยเหลือเป็นการเสริมสภาพคล่องให้กับสมาชิก รวมถึงช่วยเป็นทุนส่งเสริมการศึกษา การส่งชำระเบี้ยประกันชีวิตหรือฌาปนกิจสงเคราะห์รายปีของสมาชิกและครอบครัว โดยมีสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 346 คน ต้นเงินที่เป็นหนี้รวมกว่า 10,930,700 บาท อัตราดอกเบี้ยที่สหกรณ์ช่วยเหลือ ร้อยละ 4 ต่อปี ทำให้สมาชิกได้รับประโยชน์สามารถลดรายจ่าย 1,200 บาท/ราย/ปี โครงการดังกล่าวถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง สหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานฝาจีบ จำกัด ยังคงดำเนินโครงการเงินกู้ให้กู้ฉุกฉิน (ส่งเสริมคุณภาพชีวิต) ประจำปี 2567 และมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินของสมาชิกอย่างต่อเนื่อง​ที่ผ่านมาสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานฝาจีบ จำกัด ได้มีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 เพื่อให้สมาชิกได้รับทราบผลการดำเนินงานของสหกรณ์และการกำหนดแผนงานที่จะดำเนินการในปีต่อไป ซึ่งสหกรณ์มีผลกำไรสุทธิ 20,450,766 บาท ได้จัดสรรกำไรสุทธิตามข้อบังคับของสหกรณ์ เช่น ทุนสำรอง ร้อยละ 10 เงินปันผล ร้อยละ 5 เงินเฉลี่ยคืน ร้อยละ 10 ทุนสาธารณประโยชน์ ทุนสวัสดิการ ทุนเพื่อการศึกษาอบรมของสหกรณ์ เป็นต้น นับว่าสหกรณ์ได้ช่วยเหลือสมาชิกตามหลักการและอุดมการณ์ของสหกรณ์ และได้ตอบสนองตามนโยบายการแก้ไขปัญหาหนี้สินของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ นอกจากนั้นแล้วสหกรณ์ฯ ยังได้ขานรับนโยบายในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อให้ครอบคลุมสมาชิกทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง โดยสหกรณ์ได้คำนึงถึงการบริหารต้นทุนทางการเงินของสหกรณ์ร่วมด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ในการช่วยเหลือและยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิกสหกรณ์ให้มีความกินดีอยู่ดี และสหกรณ์มีความเข้มแข็งและเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่กันไปด้วย